แก้วสารพัดนึก 2.

        หลังจากที่ขอพรให้ทุกคนแล้ว แก้วขวัญยังขอให้แก้วสารพัดนึก กลับไปยังที่จากมา แต่แก้วสารพึดนึกได้ดึงเอาแก้วขวัญมาด้วย เพราะที่นี่คือ สถานที่กำเนิดแก้วสารพัดนึก  แก้วสารพัดนึก ได้ถูกสร้างขึ้นโดย นายน้อยแห่ง หุบเขาพลังเวทย์ สถานที่แห่งนี้ผู้คนต่างก็มีเวทมนต์ด้วยกันทั้งสิ้น  นายใหญ่แห่งหุบเขาพลังเวทย์ ได้ร่ายเวทมนต์ ป้องกันไม่ให้ผู้ใดมองเห็นสถานที่แห่งนี้

และไม่มีผู้ไดเล็ดลอดเข้ามาได้ แม้แต่แมลงตัวเล็กๆ  และผู้คนที่นี่ก็ไม่สามารถออกไปได้เช่นกัน มีเพียงนายน้อย บุตรชายคนเดียว ของนายใหญ่ ที่แอบหนีออกไปเที่ยวเล่นข้างนอกอยู่บ่อยๆ และทุกครัังที่หนีออกไป ก็จะมีเพิ่ม พี่เลี้ยงคนสนิทตามไปด้วย  นอกจากนี้ยังมี ม่านหมอก  และสิงหราช เพื่อนสนิทคอยดูต้นทางและเฝ้าประตูเข้าออกใว้ด้วย  แต่ออกไปครั้งนี้ นายน้อยได้ลืมร่ายมนต์ปิดประตู จึงทำให้แก้วขวัญถูกมนต์แห่งหุบเขาพลังเวทย์ดึงเข้ามา  ทำให้มีเรื่องวุ่นวายเกิดขึ้น เพราะหนุ่มสาว ในหุบเขาต่างก็หลงรักแก้วขวัญ และต่างก็ใช้เวทมนต์ช่วงชิง เพื่อที่จะได้แก้วขวัญไปครอบครอง  ทุกคนต่างก็ทำผิดกฏอันสำคัญของหุบเขาพลังเวทย์ กฏข้อที่หนึ่ง ห้ามทุกคนใช้เวทย์มนต์ถ้าไม่จำเป็น ที่เคยสงบเงียบมาหลายร้อยปีก็วุ่นวายขึ้น 

         เรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นเพราะความผิดของนายน้อยตะวัน เพียงผู้เดียว  หัวหน้าแห่งหุบเขาพลังเวทย์ โกรธมาก จึงมีคำสั่งให้นายน้อยตะวันดูแลแก้วขวัญ ไม่ให้มาสร้างความวุ่นวาย และให้หาทางส่งแก้วขวัญกลับไปให้เร็วที่สุด ไม่เช่นนั้น นายน้อยจะโดนทำลายเวทมนต์และต้องแต่งงานกับลูกสาวของ ยายเฒ่าดอกแก้วดำ ผู้เป็นทั้งอาจาย์สอนเวทมนต์ และที่ปรึกษาแห่งหุบเขาพลังเวทย์   และเป็นผู้เดียวที่มีเวทมนต์เก่งกล้า ไม่มีใครกล้าต่อกรแม้แต่นายใหญ่  แต่แก้วขวัญกลับตกหลุมรักนายน้อย ผู้ที่มีหน้าตาเหมือน เพียงตะวันคนรักในช่วงเวลาปัจุบัน และพยายามให้นายน้อยใข้เวทมนต์ส่งเขากลับก่อนที่เรื่องจะบานปลายไปกันใหญ่ แต่เขาหารู้ไม่ว่า นายน้อยก็รักแก้วขวัญไม่ต่างกัน จึงแกล้งทำเป็นว่าตนไม่สามารถส่งแก้วขวัญกลับได้ ทั้งๆที่พลังเวทย์ของเขาที่แอบไปฝึกกับท่านอาจารย์ดอกแก้วดำ ได้บรรลุถึงขั้นสูงสุด และเก่งกล้ามากพอ ที่จะข้ามเวลาทะลุมิติ ไปที่ไดก็ได้